ขาดวิตามิน-เกลือแร่ ระวัง มะเร็งลำไส้ ถามหา

 

ขาดวิตามิน-เกลือแร่ ระวัง มะเร็งลำไส้" ถามหา

 

แนะทานผัก  รับสารอาหารเหมาะสมลดเสี่ยงได้

 

          มะเร็งลำไส้ เป็นอีกโรคที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกปี พบว่าผู้ที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงคือผู้กินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะกลุ่มที่กินอาหารที่มีวิตามินและกากใยน้อย ดังนั้น จึงมีกระแสการส่งเสริมให้คนไทยหันมากินผักและผลไม้เพิ่มมากขึ้น จะช่วยป้องกันโรคดังกล่าวได้เป็นอย่างดีหากเรากินอาหารในกลุ่มนี้ในปริมาณที่เพียงพอและสม่ำเสมอ แต่จากการดำเนินชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน เพียงแค่จะรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อตรงตามเวลาก็เป็นเรื่องยากแล้ว อีกทั้งข้อจำกัดด้านเวลายังทำให้ทางเลือกของอาหารในแต่ละมื้อมีน้อยลงไป บ่อยครั้งที่เราต้องกินอาหารจานด่วนที่มีผักอยู่เพียง 2-3 ชิ้น คือ แตงกวา หรือบ้างก็ไม่มีเลย ยิ่งเป็นอาหารฟาสต์ ฟู้ดแล้วยิ่งแทบไม่มีผักผลไม้เป็นส่วนผสม

 

           วิถีชีวิตที่บีบคั้นเช่นนี้ยิ่งทำให้การป้องกันตนเองจากโรคมะเร็งลำไส้ยากขึ้นไปอีก ซึ่งไม่เฉพาะมะเร็งลำไส้เท่านั้น นักโภชนาการชั้นนำของเมืองไทยอย่าง ศ.น.พ.สุรัตน์ โคมินทร์ หัวหน้าหน่วยโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุว่าคนไทยเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น โรคหัวใจ กระดูกพรุน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และมะเร็งอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

        ศ.น.พ.สุรัตน์ยังกล่าวในงานเสวนาทางการแพทย์ "ปฏิวัติโภชนาการ เพื่อชีวิตใหม่ อ่อนวัย ห่างไกลโรค" จัดโดยไวเอท คอนซูเมอร์ เฮลธ์แคร์ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์วิตามินและเกลือแร่รวม ว่า สำนักที่ปรึกษากรมอนามัยเคยสำรวจพบว่าคนไทยทุกเพศทุกวัยจำนวนไม่น้อยได้รับวิตามินและเกลือแร่ต่ำกว่าที่ร่างกายต้องการตามมาตรฐานปริมาณสารอาหารที่แนะนำในแต่ละวัน วิตามินและเกลือแร่นั้นเป็นที่ทราบกันดีว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งยวดในการเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย

 

           ด้านศ.เจฟฟรี่ บี บลูมเบิร์ก ผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชวิทยา และผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยด้านสารต้านอนุมูลอิสระ ศูนย์วิจัยโภชนาการมนุษย์และการเปลี่ยนตามวัย มหาวิทยาลัยทัฟส์ สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การบริโภควิตามินและเกลือแร่รวมในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสุขภาพของคนในยุคปัจจุบันที่มีภารกิจรัดตัว กินนอนไม่เป็นเวลา ออกกำลังกายและพักผ่อนน้อย เพราะเป็นวิธีการที่สะดวกที่ช่วยเติมเต็มร่างกายให้ได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่ต้องการในแต่ละวัน และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ การได้รับวิตามินรวมติดต่อกันเป็นเวลา 15 ปี จะช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ได้สูงถึงร้อยละ 80

 

           สำหรับวิธีการเลือกผลิต ภัณฑ์วิตามินให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายผู้บริโภคสูงสุดนั้น ศ.เจฟ ฟรี่เสนอข้อพิจารณาสำคัญเบื้องต้น 3 ข้อ ได้แก่ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินและเกลือแร่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ ผลิตภัณฑ์วิตามินเกลือแร่รวมนั้นต้องมีปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ผลิตภัณฑ์นั้นควรประกอบด้วยสารอาหารวิตามินและเกลือแร่ล้วนๆ ไม่เจือปนส่วนประกอบอื่นๆ

 

           เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ผู้ที่มีวิถีชีวิตเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ และโรคร้ายอื่นๆ ซึ่งเกิดจากอาการขาดวิตามินและเกลือแร่ก็คงจะสบายใจขึ้น แล้วยังได้สุขภาพดีเป็นของแถมด้วย

 

 ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด