5 โรคมากับน้ำ ตาแดงรุนแรงถึงบอด

 

5 โรคมากับน้ำ ตาแดงรุนแรงถึงบอด

 

ช่วงน้ำท่วม...ฤดูฝน สถิติทางการแพทย์ ระบุว่า  โรคระบาดอันดับต้นๆที่มากับน้ำมีอยู่ด้วยกัน 5 โรค

 

อันดับแรก  ได้แก่...กลุ่มโรคระบบทางเดินอาหาร ที่พบบ่อยคือ โรคท้องเดิน  โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ  สาเหตุเกิดจากอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน

 

รวมทั้งการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ...ใช้น้ำที่ไม่สะอาดมาประกอบอาหาร  รวมถึงการรับประทานอาหารที่ปรุงไว้นานข้ามมื้อ หรือเกิน 6 ชั่วโมง เช่น อาหารกล่องที่ทำไว้สำหรับคนจำนวนมาก ที่อาจจะบูดเสียได้ง่ายๆ

 

อันดับที่สอง...กลุ่มโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย  ทั้งร้อนจัด ฝนตก ก็ทำให้คนป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจได้ง่าย  โดยเฉพาะโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในอากาศ  แถมยังติดต่อกันได้ง่ายเพียงแค่การไอ จาม หรือมือที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย  เสมหะ

 

อันดับที่สาม...โรคเลปโตสไปโรซิส คนไทยอาจจะคุ้นกันในชื่อ “โรคฉี่หนู” ซึ่งทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า โรคฉี่หนูมีพาหะคือ “หนู” เท่านั้นความเป็นจริงพาหะของโรคฉี่หนู มีได้ทั้งสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข สุกร โค กระบือ รวมทั้งสัตว์ป่า และสัตว์ที่มีฟันแทะทั้งหลาย เชื้อเหล่านี้จะปะปนอยู่ในน้ำ สิ่งแวดล้อมในที่ที่มีน้ำท่วมขัง หากใครสัมผัสถูกเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผล รอยขีดข่วน เยื่อบุจมูก เยื่อบุตา เยื่อบุในช่องปากได้ง่ายๆ

 

อาการเด่นของโรคฉี่หนูหลังได้รับเชื้อ 1-2 อาทิตย์ จะมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ มักปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่องและโคนขาอย่างรุนแรง และตาแดง คอแข็ง...สลับกับไข้ลด หากเป็นมากอาจมีจุดเลือดออกที่เพดานปาก หรือตามผิวหนัง จนกระทั่งตับวาย ไตวายได้เลยทีเดียว

 

อันดับที่สี่...หลายพื้นที่ที่น้ำท่วมขังยาวนาน จนเกิดกองทัพยุง ให้ระวัง...โรคไข้เลือดออก เพราะพาหะนำโรคไข้เลือดออกก็คือ “ยุงลาย”หาก ได้รับเชื้อประมาณ 5-8 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงราวๆ 38.5-41 องศาเซลเซียส...ติดต่อกัน 2-7 วัน หน้าแดง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก บางรายเบื่ออาหาร ปวดท้อง อาเจียน จากนั้นจะมีจุดแดงเล็กๆ ขึ้นตามลำตัว

 

ในรายที่มีอาการรุนแรงจะเกิดภาวะช็อกหลังไข้ลดลงอย่าง รวดเร็ว ตัวเย็น ปากเขียว บางรายมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร ถ่ายเป็นเลือด  หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง...ทันเวลา อาจเสียชีวิตได้ภายใน 12-24  ชั่วโมง

 

นอกจากนี้  ยังพบด้วยว่าโรคระบาดที่กำลังมีสถิติผู้ป่วยและมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะในเด็ก  เพราะเป็นวัยที่ชื่นชอบการเล่นน้ำในบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง อันเป็นสาเหตุสำคัญของโรคระบาดที่มากับน้ำลำดับสุดท้าย...คือ “โรคตาแดง และเยื่อบุตาอักเสบ”

 

คนไม่น้อยอาจมองว่า มีความรุนแรงน้อย...เป็นแล้วไม่ค่อยแสดงอาการเจ็บป่วยเหมือนโรคชนิดอื่นๆ ทำให้ขาดความระมัดระวัง แต่ในความเป็นจริงโรคตาแดงคือ โรคติดต่อที่มีความอันตรายมากโรคหนึ่ง เพราะหากปล่อยไว้ หรือไม่เข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี อาจเกิดการติดเชื้อ...ร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้

 

นพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ผอ.โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) สังกัดกรมการแพทย์ ให้ข้อมูลว่า โรคระบาดทางตาที่พบมากช่วงน้ำท่วม มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำที่นำมาอุปโภคบริโภคโรคตาแดงเป็นโรคตาที่พบได้บ่อย  เป็นการอักเสบของเยื่อบุตาที่คลุมหนังตาบนและล่างรวมเยื่อบุตาที่คลุมตาขาว  อาจจะเป็นแบบเฉียบพลันหรือแบบเรื้อรัง

 

คุณหมอปานเนตร บอกว่าตาแดงจากเชื้อแบคทีเรียมักเป็นอย่างรวดเร็ว...รุนแรง จะมีขี้ตาเป็นหนอง  ตาแดง...กดจะเจ็บ เคืองตามาก  ตาและหนังตาบวม...เชื้อที่เป็นสาเหตุคือเชื้อหนองใน และเชื้อไข้กาฬหลังแอ่น

 

สำหรับ เด็กตาแดงที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียมักจะเป็นเชื้อ Streptococcus pneumoniae, Haemophilus influenzae ส่วนผู้ใหญ่จะเป็นเชื้อ Staphylococcus aureus อาการของตาแดงจะมีความรุนแรงและแสดงอาการของโรคที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่จะมีอาการเคืองตา น้ำตาไหล มีขี้ตาเขียว ตาบวม หนังตาบวม

 

ส่วน โรคตาแดงจากการติดเชื้อ...ไวรัส มักจะระบาดในชุมชน โรงเรียน ที่ทำงาน  ติดต่อได้ง่าย การติดต่อมักจะติดต่อโดยการสัมผัสทางมือ เครื่องมือ  สระว่ายน้ำ อาการที่สำคัญคือตาแดงเฉียบพลัน น้ำตาไหล เยื่อบุตาบวม  ต่อมน้ำเหลืองหน้าหูโต เคืองตาเล็กน้อย บางรายอาจจะมีเลือดออกที่ตาขาว

 

“ตาแดง จากไวรัส...อาจจะเป็นข้างใดข้างหนึ่งก่อนแล้วค่อยลามมาอีกข้างหนึ่ง เพราะติดต่อโดยการสัมผัส แนะนำให้หลีกเลี่ยงสัมผัสกับคนอื่นเป็นเวลา 7 วันนับตั้งแต่เกิดอาการ การรักษาเป็นเพียงประคับประคองโดยการประคบเย็น ยาหยอดตา ส่วนยาปฏิชีวนะไม่จำเป็นต้องใช้...ไม่ควรใช้ยาที่มีส่วนผสมสเตียรอยด์จะ ทำให้หายช้า

 

สัญญาณบ่งชี้ให้รู้ว่า...โรคตาแดงกำลังคืบคลานมาหาคุณหรือไม่ พญ.นวลจิรา ประกายรุ้งทอง ผอ.ศูนย์โรคตา โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) บอกว่า เริ่มจาก...คันตา ซึ่งอาจพบบ่อยในผู้ป่วยตาแดงจากภูมิแพ้

 

จุดสังเกตต่อมา...ขี้ตา  คุณหมอนวลจิรา บอกว่า  ลักษณะของขี้ตาก็ช่วยบอกสาเหตุของโรคตาแดงได้...ถ้าขี้ตาใส”เหมือนน้ำตามัก จะเกิดจากไวรัสหรือโรคภูมิแพ้ ขี้ตาเป็นเมือกขาว”...มักจะเกิดจากภูมิแพ้ หรือตาแห้ง ส่วนขี้ตาเป็นหนอง”...มักจะร่วมกับมีสะเก็ด ทำให้เปิดตาตอนเช้าลำบาก โดยสาเหตุมักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย

 

โดยมาก แล้วผู้ป่วยตาแดงอาจเป็นได้ทั้งข้างเดียวและสองข้าง ซึ่งสาเหตุของการเป็นจะแตกต่างกันออกไป ดังนี้...เป็นพร้อมกันสองข้างโดยมากมักจะเกิดจากภูมิแพ้, เป็นข้างหนึ่งก่อนแล้วค่อยเป็นสองข้างสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อเช่น แบคทีเรีย ไวรัส และ...ผู้ที่มีโรคตาแดงข้างเดียวแบบเรื้อรัง ชนิดนี้ต้องส่งปรึกษาแพทย์

 

คราวนี้ก็มาถึงอาการที่บ่งชี้ว่า...คุณกำลังป่วยด้วยโรคตาแดงและเข้าข่ายรุนแรง  โดยจะมีอาการปวดตาหรือมองแสงจ้าไม่ได้ ซึ่งมักเกิดจากโรคชนิดอื่น เช่น ต้อหิน ม่านตาอักเสบ

 

หากใครมีตาแดงร่วมกับปวดตา หรือมองแสงไม่ได้ต้องรีบพบแพทย์...หรือถ้าตามัว แม้ว่ากะพริบตาแล้วก็ยังมัวอยู่ และถ้ายังเป็นร่วมกับโรคตาแดงก็ต้องปรึกษาแพทย์”

 

คุณหมอนวลจิรา ย้ำว่า โรคตาแดง ถือว่าเป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง ที่สามารถติดต่อได้จากการสัมผัส ฟังดูไม่น่าจะเป็นกังวลเท่ากับโรคไข้หวัด  ที่ติดต่อได้จากสารคัดหลั่ง การไอ...จาม แต่โรคตาแดงที่ระบาดในช่วงน้ำท่วมเมื่อเกิดการระบาดแล้ว มักยากต่อการควบคุม

 

ความยากอยู่ที่ความจำเป็นที่ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ร่วมกันในคนหมู่มาก บางครั้งอาจไม่รู้เลยว่าหนึ่งในผู้ประสบภัยที่ต้องขนย้ายสัมภาระมาพักอาศัย ในพื้นที่รวม อาจมีใครที่กำลังได้รับเชื้อ และกำลังแพร่เชื้อ  เพราะเพียงแค่ผู้ป่วยขยี้ตา หรือเช็ดน้ำตา แล้วมาหยิบจับจานชาม แก้วน้ำ ก็สามารถแพร่เชื้อโรคตาแดงให้ระบาดได้อย่างรวดเร็วดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้พบเห็นบ่อยครั้งว่า หมู่บ้านใดมีคนป่วยด้วยโรคตาแดง จากนั้นไม่นานจะมีผู้ป่วยอื่นๆป่วยตามๆกันมา

 

ส่วน ใครที่มีอาการตามข้อบ่งชี้ การตรวจรักษา...ผู้ป่วยไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง  เพราะในบางรายที่ซื้อยาไม่ได้มาตรฐาน  นอกจากจะไม่หายแล้วยังเสี่ยงตาบอดถาวรได้อีกด้วย

 

พญ.นวลจิรา ประกายรุ้งทองผอ.ศูนย์โรคตา รพ.วัดไร่ขิง ฝากทิ้งท้ายว่า“ดวงตา เป็นอวัยวะที่มีความบอบบางละเอียดอ่อนสำหรับมนุษย์ น่าแปลกใจที่กลับได้รับการดูแลไม่มากเท่าที่ควร เพื่อป้องกันความเสี่ยงท่ามกลางภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ที่ต้องพบต้องเจอใน ครั้งนี้ ใครที่สุ่มเสี่ยงจึงควรใส่ใจและช่วยเพิ่มความระมัดระวังให้มาก”

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ โดย ปานเนตร