รู้ทัน "โรคหลอดเลือดสมองตีบตันหรืออุดตัน"
โรคหลอดเลือดสมองตีบตันหรืออุดตัน หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า "โรคอัมพฤกษ์อัมพาต" คือโรคที่มีการตียตันหรืออุดตันของหลอดเลือดสมอง ทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงเนื้อสมองส่วนนั้นน้อยลงหรือไม่ได้เลย เนื้อสมองส่วนนั้นจึงขาดเลือด ออกซิเจน และสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยง ทำให้ทำงานไม่ได้ และถ้าเป็นมากหรือนานเนื้อสมองส่วนนั้นก็จะตายไปในที่สุดทำให้เกิดอาการต่างๆ ขึ้น ที่พบบ่อยคือแขนขาอ่อนแรงที่เรียกว่าเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต
โรคหลอดเลือดสมองที่พบทุกวันนี้ มีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1.โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน เกิดจากหลอดเลือดสมองตีบตันลงเพราะผนังหลอดเลือดด้านในหนาตัวขึ้นทำให้รูภายในหลอดเลือดตีบเล็กลง จนเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง สาเหตุที่ทำให้ผนังหลอดเลือดด้านในหนาตัวขึ้นที่พบบ่อยที่สุดได้แก่ โรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานทำให้ผนังหลอดเลือดด้านในเสื่อมและหนาตัวขึ้น สาเหตุอื่นๆ ได้แก่ อายุมากขึ้นไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ การติดเชื้อการอักเสบของหลอดเลือดอุบัติเหตุที่หลอดเลือด ฯลฯ
2.โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน เกิดจากมีอะไรบางอย่างไปอุดรูหลอดเลือดสมอง ขัดขวางการไกลของเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง สิ่งที่ไปอุดหลอดเลือดสมองที่พบบ่อยที่สุดได้แก่ก้อนลิ่มเลือดจากหัวใจ และก้อนเกล็ดเลือดจากผนังหลอดเลือดที่คอ สาเหตุอื่นๆ ที่พบน้อยกว่าได้แก่ ก้อนเซลล์มะเร็ง ฟองไขมัน ฟองอากาศ ฟองน้ำคร่ำ ฯลฯ
6 สัญญาณอัตราย
แม้ว่าอาการของโรคหลอดเลือดสมองจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันแต่การใส่ใจดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้ 6 สัญญาณอันตราย ที่มักจะเกิดขึ้นก่อนเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
1.ไม่มีแรงหรือชาอย่างเฉียบพลันที่ใบหน้า แขนหรือขาซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย มือหยิบของแล้วร่วงตกอาการมักเกิดขึ้นชั่วขณะและหายเองได้ภายในเวลา 24 ชั่วโมง
2.ตามันหรือมองไม่เห็นอย่างเฉียบพลันโดยเฉพาะถ้าเป็นกับตาข้างเดียว
3.อยู่ๆ ลิ้นแข็งหรือชาทำให้พูดไม่ชัดหรือพูดลำบากแต่สามารถกลับสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว
4.วิงเวียนศรีษะบ่อย บางทีเป็นลมล้มลงแต่สามารถรู้สึกตัวได้อย่างรวดเร็ว
5.นึกอะไรช้าลง สับสน ขาดสมาธิ สมรรถภาพการทำงานลดลงอย่างไร้เหตุผล
6.อยู่ๆ ปวดศรีษะรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
อาการเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใดหรือรวดเร็วมากภายในเวลาไม่กี่นาที ใครมีอาการเข้าข่ายในจำนวนี้อย่านิ่งนอนใจ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการรุนแรงหรือมีอาการหลายๆอย่างประกอบกันในคราวเดียว ควรรีบปรึกษาแพทย์ หรือให้ผู้ที่ใกล้ชิดพาส่งโรงพยาบาลทันที
การรักษาโรค
ถ้าผู้ป่วยมาหาแพทย์เร็วและสามรถทำการวินิจฉัยที่แน่นอน คือ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ CT หรือ MRI รวมทั้งการตรวจเลือดที่สำคัญได้เสร็จภายในเวลา 3 ชั่วโมงนับจากเริ่มมีอาการ แพทย์อาจพิจารณาให้ยาละลายลิ่มเลือดที่อุดตันหลอดเลือดสมองอยู่เพื่อให้รูในหลอดเลือดสมองกว้างขึ้น เลือดจะได้ไหลไปเลี้ยงเนื้อสมองได้มากขึ้น อาจช่วยให้เนื้อสมองส่วนนั้นไม่ตายหรือเกิดหย่อมเนื้อสมองตายน้อยลง แต่เนื่องจากยานี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ที่สำคัญคืออาจทำให้เกิดเลือดตกในเนื้อสมองได้ ก่อนที่จะทำให้แพทย์จึงต้องพิจารณาดูว่าผู้ป่วยมีข้อห้ามหรือข้อพึงระวังของการให้ยานี้อยู่หรือไม่ การให้ยานี้จึงไม่อาจให้ได้ทุกราย ต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป
ถ้าผู้ป่วยมาหาแพทย์ช้าทำให้ไม่สามารถให้ยาละลายลิ่มเลือดได้ทันภายใน 3 ชั่วโมงนับจากเริ่มอาการ การให้ยาเพื่อละลายลิ่มเลือดก็จะไม่มีประโยชน์ เพราะเนื้อสมองจายไปแล้ว ทั้งอาจมีผลเสียเกิดขึ้นเพราะอาจเกิดเลือดออกแทรกซ้อนในเนื้อสมองได้ถ้าให้ยานี้ การรักษาในกรณีที่ผู้ป่วยมาถึงแพทย์ช้าจึงมุ่งไปที่ป้องกันไม่ให้ หลอดเลือดตีบตันหรืออุดตันเพิ่มขึ้นอีกโดยการให้ยาเกล็ดเลือดและหรือยาต้านการเกิดลิ่มเลือดแทน
การป้องกันโรค โรคนี้ป้องกันได้โดยตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้และรักษาเสียแต่เนิ่นๆ โรคที่เป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดคือโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง และโรคหัวใจ ดังนั้นผู้ที่เริ่มมีอายุคือตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจเช็กร่างกายประจำปีการปฎิบัติตัวที่เหมาะสมก็สามารถช่วยป้องกันไม่ได้หลอดเลือดสมองแข็งตัวจนเกิดการตีบตันได้คือการไม่สูบบุหรี่ การเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันมาก การควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินเกณฑ์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนหย่อนใจให้เพียงพอไม่ให้เกิดความเครียดเรื้อรัง
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก