ยาอะไรที่ควรมีติดไว้ที่บ้าน
ยาสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดไว้ในบ้าน เพื่อที่จะรักษาโรคเล็กๆน้อยๆ ก่อนไปพบแพทย์ หรือป้องกันไม่ให้ไม่ให้มีอาการป่วยมากไปกว่าเดิม ดังนั้นทุกบ้านอาจจะต้องมีการเตรียมยาสามัญประจำบ้าน และควรจะรู้จักยาและคุณสมบัติของยาบางชนิดเพื่อให้เกิดการใช้ยาให้ถูกต้องและให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ในกรณีใช้ในผู้สูงอายุ ควรจะต้องปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ยา เนื่องจากว่าผู้สูงอายุบางท่านอาจจะมีโรคประจำตัวหรือได้รับยามากอยู่แล้ว อาจจะส่งผลให้ตับและไตทำงานหนักมากขึ้น
ยาสามัญประจำบ้านที่ใช้รับประทาน:
1. ยาลดไข้บรรเทาปวด: นอกจากจะใช้ลดไข้แล้วยังสามารถใช้แก้ปวดได้อีกด้วย
2. ยาแก้หวัด:ยาแก้หวัด ลดอาการน้ำมูกไหล มักมียากลุ่มแอนตี้ฮิสตามีน ที่จะทำให้เกิดอาการง่วงซึม
3. แก้ไอ ลดเสมหะ มีทั้งชนิดเม็ดและชนิดน้ำ
4. ยาบรรเทาอาการปวดกระเพาะและลำไส้: ใช้เมื่อเกิดอาการอาหารไม่ย่อย ท้องร่วง
5. ยาแก้เมารถ เมาเรือ ยาแก้แพ้
ยาสามัญประจำบ้านที่ใช้ภายนอก
1. ยาทาแผลสดหรือเบต้าดีน
2. แอลกอฮอล์ น้ำเกลือ
3. ครีมหรือเจลทาแก้อักเสบ
4. แผ่นแปะแก้ปวด
5. ยาหยอดตา
6. ครีมหรือเจลทาแก้ผื่นคัน
ข้อควรระวัง
1. ผู้ใหญ่ที่รับประทานยาแก้หวัดเกิน7-10วันขึ้นไป หรือมีอาการเป็นไข้เกิน 3 วันขึ้นไปแต่อาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
2. หากเกิดอาการของโรคแทรกซ้อน ให้หยุดทานยาในทันที และรีบไปพบแพทย์
3. ไม่ทานยาแก้ปวดลดไข้ 2 ชนิดขึ้นไปในเวลาเดียวกัน เพราะอาจเกิดอาการแทรกซ้อน และฤทธิ์ยาก็เพิ่มมากขึ้นด้วย
วิธีการเก็บรักษายา
1. ยาลดไข้ ยาแก้หวัด ยาแก้ไอ ยาเคลือบกระเพาะ ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง
2. ยาหยอดตา:วางไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ เว้นแต่ว่ามีการระบุว่าจะต้องเก็บไว้ในตู้เย็นเท่านั้น และให้ทิ้งในทันทีหากใช้ไม่หมดภายในหนึ่งเดือน
3. ยาสวนทวาร:เนื่องจากยาสวนทวารจะเริ่มอ่อนตัวเมื่อมีอุณหภูมิเกิน 30℃ จึงควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อป้องกันการอ่อนตัว
ยาสามัญประจำบ้านเป็นยาที่เตรียมไว้สำหรับการใช้ในกรณีฉุกเฉิน มีข้อระวังในการใช้ ควรใช้ตามใบกำกับของเภสัชกรเท่านั้น และควรให้สมาชิกบ้านทราบว่ามียาอะไรบ้าง เก็บไว้ที่ไหน และใช้งานอย่างไร หากใช้แล้วอาการไม่ดีขึ้นจะต้องไปพบแพทย์ เพื่อป้องกันการเป็นมากขึ้น